น้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงตระหนักว่าการมีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์จะนำไปสู่สุขภาพจิตที่ดี และสุขภาพที่ดีของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ สามารถทำประโยชน์ด้านอื่น ๆ เพื่อเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปได้ พระองค์จึงได้พระราชทานความช่วยเหลือและแนวพระราชดำริการแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขเรื่อยมา
นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในประเทศไทย เมื่อต้นปี 2563 เป็นต้นมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดของโรค ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญในการดูแลสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า พร้อมพระราชทานพระบรมราโชบายในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ด้วยทรงห่วงใยประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ ได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละกำลังกาย และอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด – 19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ กว่า 1,100  ล้านบาท ในการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ  เพื่อนำไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทางการแพทย์ในการป้องกันดูแลสุขภาพอนามัยประชาชนอย่างครบวงจร ช่วงที่โรคระบาดหนัก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์เชิญถุงพระราชทานกำลังใจ ซึ่งมีเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารแห้ง นม น้ำผลไม้ และน้ำดื่ม มอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งยังได้พระราชทานความช่วยเหลือพสกนิกรในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ได้อย่างทันกาล น้ำพระราชหฤทัยยังแผ่ไปถึงผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ ให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างทั่วถึง รวมทั้งทรงช่วยเหลือเด็กที่ผู้ปกครองเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด – 19 ให้ได้รับการศึกษาโดยให้เข้าศึกษาต่อเป็นนักเรียนทุนพระราชทานในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่ตั้งอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และมีโอกาสทางการศึกษาจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาสูงสุดตามความสามารถ ทั้งนี้ ทรงมีพระราชประสงค์ให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว และให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติสุขได้อีกครั้ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีส่วนสำคัญทำให้ประเทศไทยลดความเสียหายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 
และ ด้วยความสนพระราชหฤทัยและให้ความสำคัญกับด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอาคาร “มหิตลาธิเบศร” ภายในกระทรวงสาธารณสุข ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบุคลากรทางการแพทย์ และพสกนิกรไทยเป็นล้นพ้น